สกสค. เดินหน้าเปลี่ยนระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเป็น
Digital Transformation to Smart
hospital
พร้อมรีโนเวทอาคารหอพัก 4 ชั้น
ขยายบริการด้านการแพทย์
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุมเทพหัสดิน ชั้น 1 อาคารสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์วราวุธ ตีระนันทน์ ประธานคณะอนุกรรมการสืบค้นข้อเท็จจริงและร่างขอบเขตของงานจ้างและกำหนดราคากลางออกแบบปรับปรุงอาคารหอพัก 4 ชั้น (Renovation)เป็นสถานพยาบาล พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการ และแพทย์หญิงฤทัย วรรธนวินิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลครู เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ร่วมกันประชุม เพื่อร่วมกันหาทิศทางการพัฒนาโรงพยาบาลครู ของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ในปี 2567 ในการปรับปรุงอาคารหอพัก 4 ชั้น เพื่อขออนุญาตเป็นสถานบริการสาธารณสุข
ทั้งนี้
แพทย์หญิงฤทัย วรรธนวินิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลครู ของ สำนักงานคณะกรรมการ
สกสค. และคณะ ให้ข้อมูลทิศทางการพัฒนาโรงพยาบาลครูว่า “โรงพยาบาลครู
เป็นหนึ่งในภารกิจด้านการจัดสวัสดิการ ด้านสุขภาพอนามัยให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา
ข้าราชการอื่น ๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไป ตามระเบียบว่าด้วยสถานพยาบาล
ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอกในวันทำการ ตั้งแต่เวลา 07.30 น. ไม่มีผู้ป่วยค้างคืน และเพื่อให้การรักษาพยาบาลให้ดี
ทันสมัยยิ่งขึ้น สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. จึงจะดำเนินการพัฒนาพลิกโฉมโรงพยาบาลครู
โดยจะดำเนินการ 3 เรื่องควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน ได้แก่ 1. ปรับการบริหารจัดการเป็น Smart
hospital โดยเปลี่ยนระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงพยาบาลครู
จาก Hospital OS เป็น Digital Transformation to
Smart hospital 2. การส่งเสริมป้องกันสุขภาพของคุณครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ
(ตาม พรบ.สุขภาพแห่งชาติ) โดยต้องลงทะเบียนเป็นหน่วยร่วมบริการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ
เขต 13 กทม. และ 3. การ Renovation อาคารหอพัก
4 ชั้น เพื่อขออนุญาตเป็นสถานบริการสาธารณสุข
ช่วงเดือน
มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมานางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ณ ขณะนั้น) และบอร์ด สกสค.
เห็นชอบในหลักการให้พลิกโฉมโรงพยาบาลครู ให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของผู้มารับบริการ
จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการ Smart hospital เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริการให้เชื่อมโยง ตอบสนองได้รวดเร็ว
ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 2. โครงการ Renovation อาคารหอพัก 4
ชั้น ที่ไม่ได้ใช้งาน และขออนุญาตเป็นสถานพยาบาล ซึ่งจะประกอบไปด้วย หน่วยไตเทียม
นวดแผนไทยและกายภาพบำบัด
พร้อมปรับพื้นที่พักรับรองในการมารับบริการที่โรงพยาบาลครู
และเมื่อช่วงเดือนมกราคม
2567 ที่ผ่านมา พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ
และคำแนะนำในการสานต่อภารกิจของโรงพยาบาลครูในโครงการดังกล่าว พร้อมเน้นเรื่องการส่งเสริมป้องกันสุขภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ
ซึ่งโรงพยาบาลครูได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพเชิงรุกของบุคลากรฯ (ขณะนี้รอหนังสือตอบกลับถึงวิธีการดำเนินงานที่เหมาะสม
ถูกต้องจากกรมบัญชีกลางฯ) นอกจากนี้ยังได้ลงทะเบียนกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ เขต
13 เฉพาะด้านเวชกรรมและทันตกกรม เพื่อรับสิทธิในการส่งเสริมป้องกันฯ เช่น
การให้บริการฉีดวัคซีนตามฤดูกาล การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
แพทย์หญิงฤทัย
กล่าวอีกว่า “การขยายพื้นที่โรงพยาบาลครู โดย Renovation อาคารหอพัก 4 ชั้น มาเป็นพื้นที่รักษาพยาบาล จะปรับโฉมทั้งภายในภายนอก
ซึ่งภายนอกจะทำ Facade หรือ เปลือกอาคาร
ให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามน่ามาเข้ารับบริการ มีการทำทางเชื่อมที่ชั้น 2 และชั้น 4
กับอาคารเดิม ส่วนภายในปรับปรุงพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น ชั้นที่ 1 ประกอบด้วยหน่วยบริการ
ติดตั้ง Central Lab ครบวงจร โดย Outsourcing ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาปฏิบัติงาน เพื่อลดระยะเวลาการเดินทางของ Lab
ไปตรวจที่อื่น ,มีการการติดตั้งเครื่อง X-ray แบบ Digital เพื่อให้มีเครื่อง
X-ray ที่ทันสมัย, ตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยไตเทียม เช่น เครื่องทำน้ำ RO และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ชั้นที่ 2 ใช้เป็นหน่วยไตเทียม ได้ 20 เตียง
โดยจะมีเอกชนมาลงทุน เพื่อเพิ่มบริการในการล้างไตในทุกสิทธิ์ ชั้นที่ 3
ใช้เป็นนวดแผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้ประมาณ 20 เตียง ซึ่งปัจจุบันมี 7
เตียงบริการ ส่วนที่ 4 ใช้เป็นสำนักงานห้องผู้อำนวยการ และหน่วยสนับสนุน
และทำให้สามารถขยายบริการหน่วยทำฟัน จากปัจจุบันที่มี 4 หน่วย เพิ่มได้อีก 2-3
หน่วย โดยในปี 2566 มีผู้มารับบริการจำนวน 70,535 ครั้ง/ปี
เฉลี่ยวันละ 306 ครั้ง"
ดวงกมล : ข่าว
กัลยรัตน์ : ภาพ/อินโฟกราฟิก
กลุ่มเทคโนโลยีและสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร
สำนักอำนวยการ